วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

สารพัดการแปลงไฟล์ ด้วยโปรแกรม format factory


หลายคนคงปวดหัดเรื่่องการแปลงไฟล์ จาก MP4 ให้เป็น MP3  ไฟล์หนังให้เป็น 3g สำหรับมือถือ  อีกสารพัด  ไฟล์ Music Video   มาเป็น MP3  จะทำยังไง  ไปจ้างร้านดีไหม  ผมีโปรแกรมแนะนำครับเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายและฟรี   ลองเอาไปใช้กันดูครับ

ขั้นตอนแรกดาวน์โหลดโปรแกรมก่อนครับ   ที่นี่  http://format-factory.en.softonic.com/?ptn=ff  คลิ๊กดาวน์โหลดตรงรูปเขียวๆ ครับ  รอแป๊บหนึ่งก็จะได้โปรแกรมละ

การติดตั้ง ก็ Next อย่างเดียวครับ

การใช้งาน

เปิดโปรแกรม


เลือกประเภทที่จะแปลงก่อนครับว่าจะเป็นไฟล์เป็นอะไร  
แล้วก็เลือกไฟล์ต้นฉบับที่ต้องการแปลง   

ตัวอย่างผมแปลงไฟล์ MP4 ให้เป็น MP3 ครับ


สามารถเลือกแปลงทีได้หลายๆ ไฟล์ครับ  ผมแปลงหนัง DVD มาเป็น CD ธรรมดา 10 เรื่องก็เลือก 10 ไฟล์ครั้งเดียว แต่ต้องดูเครื่องเราด้วยครับว่าแรงขนาดใหน


เมื่อได้แล้วก็กำหนดที่เก็บแล้วก็เลือกไฟล์  และก็เริ่มแปลงเลยครับ  รอซักพักก็เสร็จแล้วครับ


เป็นไงง่ายไหมครับ  ไม่ต้องไปง้อร้านเลย   ลองเอาไปใช้กันดูครับ

อัตราการครองเตียง

พอดีวันนี้พี่จากสำนักคุณภาพได้มาขอรายงานอัตราการครองเตียง  ผมเลยได้ดูรายงานที่จากโปรแกรมที่มีอยู่ให้  แต่จากการคำนวณดูแล้ว  พี่เขาบอกว่าข้อมูลไม่ถูกผมจึงได้ไปค้นหารายงานตัวนี้ใหม่
จึงพบปัญหาจากรายงานตัวเดิมที่มี  เขาคำนวณจากจำนวนเตียงที่ของเราที่มี  ไม่ได้มาจากขนาดของรพ.  ซึ่งผม เพิ่มเตียงไปเกืิอบ 150 เตียง   ทำให้เวลาคำนวณออกมาอัตราครองเตียงจึงน้อยกว่าปกติจึงได้ปรับปรุงแก้ไขตามนี้ครับ

ดาวน์โหลดที่นี่

ผมแก้ตามนี้ครับ



แบบฟอร์มตัวอย่างรายงาน


ต้องแก้ข้อมูลจำนวนเตียงแต่ละ Ward ก่อนครับ เพราะรพ.ผมเป็นขนาด 120 เตียง
คลิ๊กขวา ที่ Variable 7 เลือกดังภาพครับ




แก้จำนวนเตียงแต่ละ Ward ตามภาพครับ
ผมเพิ่ม  +1  เข้าไปเพราะลองคำนวณดูแล้วมันผิดครับ  คือเช่นเดือนมกรา  มันควรจะได้ 31 วัน แต่เวลามันลบกันมันได้ค่ามาแค่ 30  ผมเลยใ่ส่ +1 เข้าไปครับ


แก้จำนวนเตียงทั้งหมด คลิกขาที่ Variable  13

  

แก้จำนวนเตียงตามขนาดของรพ.ครับ


อันนี้เป็นส่วนเพิ่มที่ผมคำนวณ  จำนวนวันนอนเฉลี่ย  โดยเอาค่า  Variable12 / Variable11 
 (จำนวนวันนอน / จำนวนผู้ป่วยจำหน่าย)  ไม่รู้ว่าใช่สูตรนี้หรือเปล่า

วิธีการ คำนวณค่า Variable ครับ

ลองไปใช้ดูนะครับคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ  รายงานนี้ผมไม่ได้เขียนเองใหม่ทั้งหมดนะครับ  ผมนำมาแก้ไขเฉยๆ ขอบคุณพี่ๆ ที่เขียนรายงานมาก่อนหน้านี้ครับผมแต่มาปรับใช้ให้เหมาะกับรพ.ผมเท่านั้นเองครับ



วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

10 ปี กับงาน IT จิตเวชเลยฯ

    เมื่อมองย้อนกลับไป  ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มาทำงานด้าน IT  เนื่องจากตัวเองเป็นเด็กที่เติบโตมาจากชนบทชีวิตค่อนข้างลำบาก   ช่วงชีวิตที่เปลี่ยนผ่าน เคยเห็นทีวีเครื่องแรกของหมู่บ้าน    หนังขายยา  หนังเร่  เคยคิดว่าทีวีทำไมมีคนอยู่ในนั้น  มีคนเล็กๆ อยู่ในนั้นหรือเปล่า  คิดไปก็เป็นเรื่องตลก
   ความฝันของเด็กชนบทโดยทั่วไปก็คือเรียนจบก็หางานทำในกทม.  ไม่เคยคิดเรื่องเป็นข้าราชการ เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลเกินฝัน
  จนมาวันหนึ่งได้มาทำงานที่รพ.จิตเวชฯ  ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องฟลุ๊ค หรือเปล่า  เพราะมาสอบทิ้งไว้จนลืมไปแล้ว  พี่เขาถึงเรียกตัวมาทำงาน  ช่วงแรกที่มาทำงานก็เป็นเหมือนเด็กไทยในทั่วไป  คือรู้ในตำราท่องจำ แต่ไม่เคยปฏิบัติ เวลามาทำงานแล้วทำงานไม่ได้เลย  จนท้อ ระบบ


ด้านระบบเครือข่าย

  โชคดีนิดหนึ่งครับที่จิตเวชฯ  ได้มีการวางสายระบบเครือข่ายไว้หมดแล้ว  แต่คอมพิวเตอร์ก็มีไม่กี่สิบเครื่อง (ประมาณ 15 เครื่อง)  แต่  IT จิตเวช เมื่อก่อนเหมือนกับหน่วยงานราชการทั่วไป คือไม่มีใครดูแล อะไรต้องพึ่งพาร้านค้าเป็นหลัก  ทำให้บางครั้งระบบ หลายๆ อย่างก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่   ระบบ Internet  ใช้ IPTV จำกัดปริมาณการดาวน์โหลด  150 Mb. ต่อเดือน  ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง  ค่าบริการที่แสนแพง  แต่ก็ไม่มีทางเลือก  เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่อยู่ในซอกลึก อะไรก็เข้าไม่ถึง
  จนมาช่วงหนึ่งที่เริ่มมีระบบ Internet  ตัวใหม่ขึ้นมา คือ IP STAR   ดีขึ้นมานิดหน่อยที่ ความเพิ่มประิมาณดาวน์โหลด และอัพโหลด อยู่ที่ 750 Mb ทรมานใช้ อยู่ อีกพักก็เพิ่มเป็น 1.5  GB.
   ในช่วงที่ ADSL รุ่งเรื่อง  แต่สอบถามบริษัทอะไรก็ไม่สามารถเดินสายให้ได้เนื่องจากไม่คุ้มค่าใช้จ่าย
แต่ก็มีบริษัทเดียวครับที่กล้ืาลงทุน คือบริษัท CAT  ที่กล้าลงทุนเ ดินสายมากกว่า 4 กิโลเมตร เป็น ADSL เลยทำให้เราสามารถใช้งาน Internet ADSL ได้  ส่วนระบบ อื่นๆ ไม่ต้องพูดถึงครับ เพราะแต่ละบริษัทให้เราออกค่าใช้จ่ายเอง  เฉพาะค่าสายก็ 2-3 แสนแล้ว ส่วนค่าบริการรายเดือนก็เป็นหมื่น  ผู้บริหารคงไม่กล้าลงทุนกับระบบนี้ครับ  เนื่องจากไม่รู้ว่าสิ่งที่ลงทุนไประดับนั้นจะคุ้มค่าใช้จ่ายหรือเปล่า


ด้านซอฟแวร์
   ตอนผมเข้ามาใหม่ๆ รพ. ได้เริ่มนำโปรแกรมระบบเวชระเบียนมาใช้แล้ว  คือ โปรแกรม Ezhosp  ในบริบทของโรงพยาบาล ที่ไม่ได้ใช้งานอะไรมากมายคือใช้เพียงแค่ บันทึกเวชระเบียน  ออกนัด คีย์ยา  เก็บเงินได้
        แต่หลายอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง  เมื่อหน่วยงานเติบโตมากขึ้นความต้องการของข้อมูลที่มีมากขึ้น  จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบ    เนื่องจากเงินทุนด้านการพัฒนาระบบสารสนเทศในแต่ละปีจำนวนจำกัด   เราจึงขอให้ผู้ใหญใจดี  อย่างพี่โด้  จากรพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย มาช่วยเหลือในการขึ้นระบบ Hosxp เมื่อปี 1 กันยายน 2554  และคอยให้ความช่วยเหลือตลอดมา   จนวันนี้ก็ครบรอบ 1 ปีแล้ว  และก็ครบรอบการทำงานของผม 10 ปีเต็มพอดี

ทุกวันนี้ด้านระบบ IT  ของรพ.  ก็เข้าที่เข้าทางมากขึ้น  มีการสนับสนุนที่มากขึ้นเนื่องจากสิ่งที่เราได้ทำมันไ้ด้ก่อให้เกิดผลสำเร็จของงานหลายๆ ด้าน  ทั้งการบริการผู้ป่วย  ความเสี่ยงเรื่องการใช้ยา  ลดภาระของการทำงาน    ไว้วันหลังผมจะสรุปภาพรวมการพัฒนาระบบ Hosxp ของโรงพยาบาลจิตเวชฯ ให้ฟังว่าเป็นยังไง

    ทิศทางการพัฒนาต่อไป  โชคดีครับที่จังหวัดเลยของเราพยายามที่จะรวมกลุ่มไอที  กันเพื่อช่วยเหลือแบ่งปัน  และพัฒนาร่วมกัน  เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมาก  อย่างน้อยเราก็ไม่ได้เดินแค่คนเดียว  เพียงลำพังครับ  แต่มันก็ยังขาดอีกหลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา  หรือมีการพัฒนาแลัวแต่ยังไม่ได้นำมาใช้อย่างจริงจัง  ได้แก่ระบบบุคลากร และระบบเงินเดือน และระบบพัสดุ  คงต้องพัฒนากันต่อไปครับ

วันนี้เริ่มง่วงๆ เบลอ  เริ่มเขียนวกไปวนมาละ  ตามประสาคนมือใหม่ครับ  เพิ่งให้เขียน

แต่ก็จะพยายามเขียนครับอาจจะไม่ดีพอ  แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย จริงไหมครับ


ถ้าวันนั้นผมตอบปฏิเสธว่าไม่มาทำงานที่นี่  ก็ไม่รู้ว่าชีิวิตผมจะเป็นเช่นไรเหมือนกันครับ


วันนี้ผมขอเล่าแค่นี้ก่อนครับ  ...






วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แก้ปัญหายกเลิกใบเสร็จแล้วพิมพ์ใบเสร็จใหม่ไม่ได้

วันนี้ได้รับแจ้งจากน้องเบิร์ด  ที่รับเรื่่องจากการเงินเรื่่องการ ออกใบเสร็จรับเงินไม่ได้  
ปัญหาคือออกใบเสร็จไปแล้ว  แต่มีการปรับเปลี่ยนยาทำให้ต้องยกเลิกใบเสร็จรับเงิน
การเงินยกเลิกใบเสร็จเดิมแล้ว  แต่ไม่สามารถออกใบเสร็จใหม่ได้

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าข้อมูลในระบบ การจ่ายยาออกไปเรียบร้อยแล้ว  และคนไข้ก็กลับบ้านไปเรียบร้อยแล้ว   การเงินจะออกใบเสร็จย้อนหลังให้  ช่วยกันอยู่นานก็ไม่ได้ซักที เลยหาข้อมูลใน Hosxp.net  เขาแนะนำให้  ไปลบ  ข้อมูล  ตาราง  Opitemrece   ฟิลล์  Finance_number  ตามรูปครับ
แล้วก็กด Update  ทีนี้ก็ลองไปออกใบเสร็จใหม่ก็สามารถใช้งานได้



ไม่แนะนำใ้ห้บ่อยครับเพราะมันคงไม่ดีเท่าไหร่   
       การแก้ปัญหาระยะยาว  ของหน่วยงานคงต้องมาคุยกันเรื่่องกระบวนการทำงานครับ  เนื่องจากปัจจุับัน  จะมีปัญหาเรื่อง  กระบวนการทำงาน  เนื่องจากห้องยาส่งมาให้ห้องชำระเงินออกใบเสร็จก่อน  แต่บางครั้งเมื่อมาเช็คจำนวนยา  แล้วยาหมด ไม่พอกับจำนวนที่หมอสั่ง  จำเป็นต้องปรับยาใหม่  และต้องออกใบเสร็จใหม่      ต้องเป็นโจทย์ให้ทีม IM  ต้องคิดและแก้ไขปัญหากระบวนการทำงานให้มันดียิ่งขึ้นไปครับ     

การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอาจแก้ไขได้ครับ  แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน  การแก้ที่ระบบงานน่าจะเป็นทางออกที่ยั่งยืนในปัญหาเรื่องนี้ครับ








วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คน ในแต่ละ Generation


ผมลองอ่าน  คน ใน Generation   ได้ลองอ่านแล้วก็ก็เป็นเรื่องน่าคิด  เพราะวันหนึ่งเราทำงานก็รู้สึกว่ามักจะเจอ เข้ากับตัวเองบ่อย  จึงพยายามเข้าใจ  ในสิ่งที่เป็น  ขอเก็บแล้วกันนะครับ  ผมก็ค้นหามาจากเน็ตเหมือนกัน


ความหมายของ Generation X (Extraordinary) 

" Life exists elsewhere in the universe."
นี้ควรเป็นคำกล่าวที่น่าจะเป็นนิยามอย่างดีสำหรับชาว X'ers เชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิต คุณเองก็คงมีช่วงเวลาหนึ่งที่อยากจะค้นหาความหมายของชีวิต อยากจะทำแต่สิ่งที่อยากทำ อยากลองเสี่ยงแต่จริงจังกับความรู้สึกโดยไม่มีเงื่อนไขหรือมีสภาวะใดๆมาบีบบังคับ คุณอยากดื้อดึงและยืนหยัดกับความเป็นตัวของตัวเอง เพียงขอให้ได้ผจญภัยในชีวิต แม้สักครั้ง..ก็ยังดี

Generation X คือ กลุ่มคนที่อายุ 29-43 ปี มีลักษณะพฤติกรรมชอบอะไรง่ายๆ ไม่ต้องเป็นทางการให้ความ สำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work-life Balance) มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพัง ไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติง เพื่อการปรับปรุงและ พัฒนาตนเอง

ในด้านการทำงาน ยิฟฟี่ หรือ gen X จัดว่าเป็นกลุ่มที่มีความตั้งใจและความทะเยอทะยาน เพราะเกิดมาในยุคที่การแข่งขันสูง (เทียบดูกับประวัติศาสตร์ก็คือ ยุคอุตสาหกรรมเศรษฐกิจเฟื่องฟูหลังสงครามอะไรทำนองนั้น) แต่ด้วยเอกลักษณ์ที่ว่าคนรุ่นนี้รักอิสระ ยิฟฟี่จึงรู้จักจัดสรรเวลาทำงานและเวลาพักผ่อนให้คล่องตัว และเริ่มยืดชีวิตโสดของตัวเองออกไป

ในด้านการใช้จ่ายเงินนั้น เหล่ายิฟฟี่กลับมีความรอบคอบในการใช้จ่ายเงินตรามาก ในงานวิจัยจัดว่าเป็นกลุ่มที่ใช้เงินเป็น อะไรที่ไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่ซื้อ แต่อะไรที่จำเป็น ถึงจะแพงแค่ไหน ก็ควักตังค์จ่ายได้โดยไม่ลังเล และเพราะความระมัดระวังในการจัดการรายรับรายจ่ายนั้น การเข้ามาของเทคโนโลยีก็มิได้ทำให้คนรุ่นนี้ถึงกับเพ้อคลั่งนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ข้ามวันข้ามคืนเหมือนเด็กรุ่นใหม่บางคน แต่เขาจะใช้เพื่อการทำงานและเพื่อความสะดวกสบายเท่านั้น

Generation Y (Why I was born?) 

gen Y คือ ผู้ที่กำลังก้าวเข้ามาสู่วัยทำงาน
หากดูจากหลายๆตำราแล้ว gen Y จะจัดเป็นกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 15 - 30 ต้นๆ เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาพร้อมกับความสงสัย เป็นรุ่นลูกของ gen X และมีปู่ย่าตายายเป็น gen B เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาด้วยความเพียบพร้อม และความสับสน

BK ให้ภาพ Generation Y แบบไทยๆ ไว้น่าสนใจว่า Gen ' Y เป็นกลุ่มคนที่เกิดในช่วงเวลาบ้านเมืองสงบและง่ายดายขึ้น พวกเขาไม่รู้จักเหตุการณ์ 14 ตุลาคม และยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พวกเขามีแม่บ้านคอยดูแลทำความสะอาดบ้านให้ มีรถที่พ่อแม่ซื้อให้ เชี่ยวชาญการท่องเน็ท เคเบิลทีวี และโทรศัพท์มือถือ หรือ PDAs ซึ่งทำให้เข้าถึงหาข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

BK ยังบอกอีกว่า นับแต่โมเดิร์นด็อก วงอัลเทอร์เนทีฟของเมืองไทยปรากฏตัวขึ้นเมื่อปี 1994, เป็นเอก รัตนเรือง ทำหนังฝันบ้าคาราโอเกะ ในปี 1997 ,แฟตเรดิโอ และอะเดย์ แมกกาซีน ในปี 2000 , ปรากฏการณ์เหล่านี้ทำให้ Generation Y มีพื้นที่ของตัวเอง สื่อต่างๆ เหล่านี้บอกว่า ทุกๆ คนสำคัญและมีหนทางของตัวเอง การตลาดเพื่อคนส่วนใหญ่ ( mass ) นั้นเชย ( out ) ไปแล้ว การตลาดเล็กๆ แต่ เก๋ กำลังอิน พวกเขาเปลี่ยนผ่านจาก จิ๊กโก๋- เด็กอัลเทอร์-เด็กอินดี้ -และกลายเป็น-เด็กแนวในที่สุด

เรื่อง Relationships ของพวกเขา ยิ่งเป็นเรื่องง่ายของGen' Y เหมือนกับ กดปุ่ม " Add as Friend " ใน My Space เรื่องเอนเตอร์เทนทั้งหลายอีก Gen ' Y สนองความต้องการของตัวเองได้ทันที แค่ คลิก iTunes หรือ BitTorrent

ในที่ทำงาน BK บอกว่า Gen ' Y มักจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก พวกเขามักจะต้องการเงินเดือนสูงๆ และไม่ต้องการไต่เต้าการทำงานจาก "ข้างล่าง" พวกเขาคาดหวังเงินเดือนมากกว่าคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว 10 ปี
พวกเขาไม่ได้ต้องการคำแนะนำว่า ควรหรือไม่ควรทำอะไร ไม่เชื่อในการใส่ยูนิฟอร์ม ไม่เชื่อเวลา 9-5 ของออฟฟิศ เวลาทำงานให้ใครพวกเขาต้องการอิสระและเป็นตัวของตัวเอง พวกเขาพูดว่า "ไม่" ทันทีถ้าไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นส่วนใหญ่ และหลายๆ คนใน Generation Y มักจะทำงานแบบ Freelance

ถึงแม้ gen Y จะมีข้อเสียอยู่มาก แต่พลังทางความคิดก็เป็นที่ต้องการในสังคม(หากเอามาใช้ในทางที่ถูกนะ) แต่...อีกแล้ว...gen Y จัดว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความภักดีต่อองค์กรน้อยที่สุด เปลี่ยนงานบ่อยที่สุด

ที่มา:


คนละภาษาเดียวกัน...??

..วันนี้เป็นวันที่ผมขึ้นเวรวันหยุด..ได้นัดหมายกับรักษาการตึกผู้ป่วยใน...ให้ลงไปเตรียมความพร้อมเรื่องระบบการสั่งยาจากผู้ป่วยใน  โดยให้แพทย์เป็นผู้คีย์ยา   ซึ่งปิกติเป็นเรื่องที่ยากมากในการที่จะให้แพทย์มาคีย์ยา  ซึ่งบรรยากาศแสนวุ่นวายเหลือเกินเพราะเป็นคนไข้จิตเวช  (ถ้าปกติจะมาจิตเวชทำไมหว่า)
  ระหว่างที่รอ  เราก็พบเห็นบรรยากาศมากมาย  การทำงานของแพทย์ช่วงวันหยุด    มันแสนจะวุ่นวาย (เพราะผมไปประมาณ 2 ชั่วโมง ยังรู้สึกว่าวุ่นวายมาก)  

    ระหว่างที่รอในยังไม่ได้ใช้ระบบ  ได้มีพยาบาลถามผมเรื่องใบแสดงความคิดเห็นแพทย์พิมพ์ยังไง  ผมก็งง ๆ  มันคืออะไรน้อ     เห็นพยาบาลคลิีกๆ  ค้นหา  ผมเลยเปิดใบรับรองแพทย์ให้ดู   ว่าอันนี้ใช่หรือเปล่า  พยาบาลบอกว่าใช่   นึกว่าจะเสร็จ   แต่เขาบอกว่าอันนี้นะภูกแต่ไม่ใช่อันนี้  เป็นใบที่พิมพ์ออกมามาที่มีค่าใช้จ่าย  ยิ่งทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่  เพราะถ้าพิมพ์ใบค่าใช้จ่ายก็เป็นสรุปรายการค่าใช้จ่าย  ซึ่งต้องคุยกันอยู่นานจนกว่าจะรู้  ว่าทางการเงินเขาให้คีย์ค่าใบรับรองแพทย์ ลงไป เนื่องจากการเงินลงไม่ได้  (แต่ในระบบจริงๆ ลงได้)    ก็เลยสรุปกระบวนการทำงานได้เขาฟัง
1. กรณีที่มีหัตถการนั้น  ปกติพยาบาลจะเป็นคนคีย์ให้
2. กรณีที่เป็นการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่าย เช่นค่าใบรับรองแพทย์  พยาบาลจะเป็นคนเขียนใบเรียกเก็บเงินให้  ให้การเงินเป็นคนไปบันทึกค่าใช้จ่าย  แ ละเรียกเก็บเงินที่ห้องชำระเงิน
3. จากการตรวจสอบคือ จนท.การเงินไม่เข้าใจ ระบบการทำงานของโปรแกรมทำให้ออกใบเสร็จไม่ได้    จึงได้แนะนำไป
4. ประเด็นเรื่องค่าใช่จ่ายตกลงใครคีย์ใครไม่คีย์ต้องมาคุยกันอีกรอบหนึ่งโดยต้องยึดตามข้อตกลงเก่าไปก่อน    เนื่องจากเป็นเรื่องของทั้งหน่วยงานต้องตกลงร่วมกัน

 ผมก็นึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงระบบโดยที่ทางทีม IM ไม่รู้ตัว   ประเด็นคือการสื่อสารตั้งแต่การเงิน มาถึงพยาบาล  พยาบาลส่งต่อมาที่ จนท.คอมฯ  ก็เป็นคนละประเด็นกันเลย  ทำให้เกิดความงงๆ กันเกิดขึ้น

      แต่ก็เป็นสิ่งที่ดี  ที่เราจะได้ไปดูระบบการทำงานที่มากขึ้นเข้า   ไปรับรู้ระบบการทำงานที่มากขึ้นหลังจากที่ผ่านมา  เราพยายามปรับปรุงระบบไปข้างหน้าเรื่อยๆ   โดยไม่ได้มองย้อนกลับหลังว่าเป็นไง
    สรุปวันนี้หมอก็ยังไม่ได้สั่งยาโปรแกรม  เนื่องจากกว่าจะ Discharge  คนไข้เสร็จก็เืกือบเที่ยงแล้ว  เห็นท่าหมอคงจะเหนื่อยเลยไม่อยากรบกวนท่านมาก  คงไว้โอกาสต่อไปอาจเจอคำถามแปลกๆ  เข้ามาอีกยังต้องลองดู   เพราะเราต่างคนต่าง พูดคนละภาษาเดียวกัน